บันทึกอนุทินครั้งที่
4
วัน อังคารที่ 27 เดือน มกราคม พ.ศ. 2558
วิชา
การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
ครูผู้สอน
อ.ตฤน แจ่มถิน
ความรู้ที่ได้รับ
บทบาทครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม
ครูไม่ควรวินิจฉัย
•
การวินิจฉัย
หมายถึงการตัดสินใจโดยดูจากอาการหรือสัญญาณบางอย่าง
•
จากอาการที่แสดงออกมานั้นอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้
ครูไม่ควรตั้งชื่อหรือระบุประเภทเด็ก
•
เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
•
ชื่อเปรียบเสมือนตราประทับตัวเด็กตลอดไป
•
เด็กจะกลายเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ครูไม่ควรบอกพ่อแม่ว่าเด็กมีบางอย่างผิดปกติ
•
พ่อแม่ของเด็กพิเศษ
มักทราบดีว่าลูกของเขามีปัญหา
•
พ่อแม่ไม่ต้องการให้ครูมาย้ำในสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว
•
ครูควรพูดในสิ่งที่เป็นความคาดหวังในด้านบวก
แต่ต้องไม่ให้เกิดความหวังผิดๆ
•
ครูควรรายงานผู้ปกครองว่าเด็กทำอะไรได้บ้าง
เท่ากับเป็นการบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้
•
ครูช่วยให้ผู้ปกครองมีความหวังและเห็นแนวทางที่จะช่วยให้เด็กพัฒนา
ครูทำอะไรบ้าง
•
ครูสามารถชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของเด็กในเรื่องที่เกี่ยวกับพัฒนาการต่างๆ
•
ให้ข้อแนะนำในการหาบุคลากรที่เหมาะสมในการประเมินผลหรือวินิจฉัย
•
สังเกตเด็กอย่างมีระบบ
•
จดบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นช่วงๆ
สังเกตอย่างมีระบบ
•
ไม่มีใครสามารถสังเกตอย่างมีระบบได้ดีกว่าครู
•
ครูเห็นเด็กในสถานการณ์ต่างๆ
ช่วงเวลายาวนานกว่า
•
ต่างจากแพทย์
นักจิตวิทยา นักคลินิก มักมุ่งความสนใจอยู่ที่ปัญหา
การตรวจสอบ
•
จะทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไร
•
เป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ครูและพ่อแม่เข้าใจเด็กดีขึ้น
•
บอกได้ว่าเรื่องใดบ้างที่เด็กต้องการความช่วยเหลือ
ข้อควรระวังในการปฏิบัติ
•
ครูต้องไวต่อความรู้สึกและตัดสินใจล่วงหน้าได้
•
ประเมินให้น้ำหนักความสำคัญของเรื่องต่างๆได้
•
พฤติกรรมบางอย่างของเด็กไม่ได้ปรากฏให้เห็นเสมอไป
การบันทึกการสังเกต
•
การนับอย่างง่ายๆ
•
การบันทึกต่อเนื่อง
•
การบันทึกไม่ต่อเนื่อง
การบันทึกไม่ต่อเนื่อง
•
บันทึกลงบัตรเล็กๆ
•
เป็นการบันทึกสั้นๆเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนในช่วงเวลาหนึ่ง
การเกิดพฤติกรรมบางอย่างมากเกินไป
•
ควรเอาใจใส่ถึงระดับความมากน้อยของความบกพร่อง
มากกว่าชนิดองความบกพร่อง
•
พฤติกรรมไม่เหมาะสมที่พบได้ในเด็กทุกคน
ไม่ควรจัดเป็นสิ่งผิดปกติ
การตัดสินใจ
•
ครูต้องตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง
•
พฤติกรรมของเด็กที่เกิดขึ้น
ไปขัดขวางความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กหรือไม่
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
-ครูไม่ควรวินิฉัยเด็ก
-ครูไม่ควรบอกผู้ปกครองเด็ก
ว่าตัวเด็กเป็นโรคอะไร
-ครูไม่ควรบอกข้อด้อยขอเด็ก
ให้บอกข้อดี แล้วแทรกข้อด้อยออกไป
-ครูมองเด็กเป็นภาพรวม เห็นทุกอย่าง
ทั้งด้านดี แลไม่ดี
-ครูควรแก้ไขปัญหาเด็กให้ตรงจุดและเป็นปัญหาหลัก
ตามลำดับความสำคัญ
-เปรียบเทียบเด็กพิเศษกับเพื่อนเสมอว่าต่างกันขนาดไหน
และเทียบกับผู้ใหญ่ด้วย
-ครูจะต้องลำดับความสำคัญให้เป็น
เพลง
กิจกรรมวาดภาพเหมือน
การประเมินการเรียนการสอน
ประเมินตนเอง
-เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย วันนี้ไม่ค่อยตั้งใจเรียนสักเท่าไหร่
แต่ก็อ่านเนื้อหาและฟังอธิบายทีหลังเริ่มเข้าใจแล้ว มีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของครูมากขึ้น
วันนี้ได้วาดภาพเหมือนดอกทานตะวันด้วย ตั้งใจวาดมากเลยนะคะ แต่งกลอนแทนความร้สึกด้วยคะ
หวังว่าคนที่ได้อ่านคงชอบ และวันนี้ครูสอนร้องเพลง
และให้ร้องที่ละกลุ่ม กลุ่มละ 5
คน พอมาถึงกลุ่มของดิฉัน ครูชมว่าร้องเพราะ ดีใจมาก
และได้เป็นตัวแทนห้องมาร้องเพลงให้เพื่อนฟัง
ประเมินเพื่อน
-เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่กายสุภาพเรียบร้อย
วันนี้เห็นเพื่อนตั้งใจวาดภาพเหมือนกัน ขณะทำกิจกรรมหรือเรียนเพื่อนบางคนก็นั่งคุยกันด้วย
แต่ก็ไม่เสียการเรียนนะคะ พอยกขึ้นโชว์ แต่ละคนวาดสวยมาก และบรรยายภาพออกมาได้ดี
บางคนแต่กลอน บางคนบรรยายตามที่เห็น และวันนี้ครูก็พาร้องเพลงโดยร้องเป็นกลุ่ม
กลุ่มไหนสามัคคีก็ร้องได้ดี
ประเมินครูผู้สอน
-เข้าสอนตรงต่อเวลาดีมาเสมอ
วันนี้ครูใส่เสื้อสีชมพูชอบมากคะ สดใสดี ครูสอนนักเรียนได้ดี
สอนด้วยการยกตัวอย่างประกอบ
และนอกจาการเรียนการสอนจากเนื้อหาแล้ว ครูยังให้นักเรียนวาดภาพเหมือนดอกทานตะวัน
ขณะที่นักเรียนวาดภาพ ครูก็เดินดูนักเรียนทุกคนด้วย ดูไปยิ้มไป
พอครูเดินมากลุ่มของดิฉัน มักมีของตก ครูก็หัวเราะ และวันนี้ครูก็สอนร้องเพลงด้วย
ครูร้องเพลงก็เพราะ นิสัยก็ดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น